นี่คือความเคลื่อนไหวที่มีนัยสำคัญมากในวงการโซเชียลคอมเมิร์ซ เพราะเครือข่ายสังคมอันดับ 1 ของโลกอย่าง Facebook กำลังโหนกระแสความนิยมในการตั้งกลุ่มประเภท “buy/sell/trade group” โดยลงมือเพิ่มเครื่องมือให้ผู้ใช้ในกลุ่มเหล่านี้สามารถสร้างแคตาล็อกสินค้า รวมถึงทำเครื่องหมายว่าสินค้านั้นจำหน่ายไปแล้วได้อย่างสะดวกสบาย
Facebook เปิดให้บริการเครื่องมือใหม่นี้ โดยจุดเด่นของเครื่องมือนี้คือการเปิดให้ผู้ใช้สามารถโพสต์ภาพสินค้าสำหรับจำหน่ายในกลุ่มได้แบบเป็นสัดเป็นส่วน โดยผู้ซื้อจะสามารถเปิดชมรายการสินค้าที่เคยจำหน่ายมาก่อนหน้านี้ได้ง่าย ขณะเดียวกันผู้ขายก็สามารถทำเครื่องหมายว่าสินค้านั้นถูกจำหน่ายหมดเรียบร้อย
ความเคลื่อนไหวนี้ทำให้ Facebook ถูกวิจารณ์ว่ากำลังเนรมิตกลุ่มบน Facebook ให้เป็นปลายทางใหม่สำหรับวงการ “virtual garage sales” ตลาดนัดออนไลน์ที่สามารถชนช้างกับผู้ให้บริการประกาศขายสินค้าอย่าง Craigslist ได้สบาย
นอกจากนี้ เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซอย่าง eBay ก็ถูกมองว่าจะได้รับผลกระทบจากก้าวใหม่ของ Facebook เช่นกัน เนื่องจากความง่ายของระบบโพสต์รูปภาพและการเพิ่มรายละเอียดสินค้า รวมถึงการเจรจาซื้อขายที่ทำได้แม้เจ้าของสินค้าจะไม่ได้ออนไลน์ (offline)
ที่สำคัญ กลุ่มบน Facebook นั้นมีลักษณะคล้ายหัวข้อสนทนาหรือ forum ซึ่งจะรวมบุคคลที่สนใจในสินค้า แบรนด์ หรือเนื้อหาเดียวกัน ดังนั้นโอกาสที่ประกาศจำหน่ายสินค้าบน Facebook จะประสบความสำเร็จนั้นมีสูงมาก นอกจากนี้ ความปลอดภัยในการซื้อขายผ่าน Facebook ยังมีสูงมากเมื่อเทียบกับ Craigslist ผลจากมาตรการบังคับใช่ชื่อจริงของ Facebook
รายงานระบุว่าปัจจุบัน กลุ่มบน Facebook นั้นมีจำนวนหลายสิบล้านกลุ่ม โดยจำนวนไม่น้อยเป็นกลุ่มที่มีความเกี่ยวข้องกับการค้า อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยว่า Facebook มีแผนเพิ่มระบบซื้อและชำระเงินแบบครบวงจรในอนาคตหรือไม่ แต่อย่างน้อยความเคลื่อนไหวนี้ก็สะท้อนว่าวงการอีคอมเมิร์ซโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน
ที่มา : http://thumbsup.in.th/2015/02/facebook-takes-on-craiglist-adds-tools-for-selling-to-a-group/
ความเห็นของข้าพเจ้า : Facebook group เหมือนจะมากินรวบพวกแหล่งความรู้ถาม-ตอบ เช่น Google guru ซึ่งปิดตัวไปแล้ว หรือแม้กระทั่งพวกเว็บบอร์ดซื้อขายเฉพาะทาง เช่น Overvlockzone.com สังเกตว่าทุกวันนี้พวกนี้เงียบเหงาลงไปมาก เนื่องจากความเป็นตัวตนของคนอยู่บน Facebook มากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งปล่อยเครื่องมือช่วยขายใน Facebook group เข้ามาด้วยแล้ว ผมมองว่างานนี้ Facebook กินรวบครับ